ภาษีคาร์บอน Carbon Tax เป็นค่าธรรมเนียมหรือภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บจากการผลิต การจำหน่าย หรือใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมัน ก๊าชธรรมชาติ หรือ ถ่านหิน ซึ่งเมื่อเผาไหม้เชื้อเพลิงพวกนี้แล้วจะทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์และถูกปลดปล่อยเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก การเรียกเก็บภาษีหรือค่าธรรมเนียมนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณของก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาในแต่ละครั้งของการดำเนินกิจกรรมของโรงงาน โรงไฟฟ้า และยานยนต์ต่างๆ
ภาษีคาร์บอน Carbon Tax ทำงานอย่างไร
โดยพื้นฐานแล้วภาษีคาร์บอนเป็นภาษีที่เกี่ยวข้องกับมลพิษ โรงงานหรือบริษัทใดผลิตคาร์บอนไดออกไซด์มากก็ต้องจ่ายภาษีมาก โดยอาศัยหลักการทางเศรษฐศาสตร์เรื่อง ผลกระทบภายนอกในเชิงลบ Negative Externality หมายถึง ผลกระทบต่อกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกรรมทางเศรษฐศาสตร์ เช่น ผลกระทบต่อชุมชนซึ่งเกิดจากการก่อมลภาวะของโรงงาน ซึ่งส่วนมากยังไม่ได้รวมเอาต้นทุนส่วนนี้เข้าไปในการคิดต้นทุนรวมของธุรกรรม ทำให้ไม่แสดงต้นทุนที่แท้จริง
เมื่อกิจกรรมต่างๆ เช่น การบริการสาธารณูปโภค ธุรกิจ ร้านค้า โรงงาน บ้านเรือน ยานพาหนะ ได้ใช้เชื้อเพลิงประเภทฟอสซิลซึ่งเมื่อเกิดการเผาไหม้แล้วจะปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ และมลพิษอื่นๆ เข้าสู่บรรยากาศ ซึ่งเป็นต้นทุนของสังคม เพราะว่ามลพิษนั้นมีผลกระทบต่อทุกคนในชุมชน ในหลายๆด้านด้วยกัน ไม่ว่าะเป็นด้านสุขภาพอนามัย การลดลงและเสื่อมสภาพของทรัพยากร การเสื่อมมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สิน ค่าใช้จ่ายที่ต้องแบบรับในการที่เพิ่มก๊าชเรือนกระจกในชั้นบรรยกาศซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของดลกให้เร็วขึ้น
ภาษีคาร์บอน เป็นต้นทุนทางสังคมของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสะท้อนจากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ใช้ไป ดังนั้นผู้ที่ก่อให้เกิดมลพิษต้องเสียค่าใช้จ่ายนั้น
เพื่อให้ง่ายในการคิดภาษีคาร์บอน เราสามารถเก็บภาษีจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลโดยตรง เช่น ภาษีพิเศษสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าช หรือ ถ่านหิน
ภาษีคาร์บอนช่วยส่งเสริมพลังงานทดแทน
การเก็บภาษีคาร์บอนทำให้เชื้อเพลิงสกปรกพวกเชื้อเพลิงฟอสซิลมีราคาสูงขึ้น ทำให้โรงงาน โรงไฟฟ้า เครื่องจักรเครื่องยนต์ ต้องหันมาเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน และลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงเหล่านี้ลงด้วยเพื่อลดต้นทุนในการทำดำเนินกิจกรรม
ภาษีคาร์บอน ช่วยให้การผลิตพลังงานสะอาดจากเชื้อเพลิงหมุนเวียน เช่น พลังงงาน ลม พลังงานแดด สามารถแข่งขันกับเชื้อเพลิงสกปรกได้ และจูงใจให้นักลงทุนด้านพลังงานหันมาพัฒนาพลังงานทดแทนเหล่านี้มากขึ้น ทำให้ต้นทุนลดลง และมีประสิทธิภาพมากขึ้นไป ในอนาคตอาจใช้เป็นพลังงานหลักทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลได้
ภาษีคาร์บอนช่วยลดโลกร้อนได้อย่างไร
ภาษีคาร์บอน เป็นหนึ่งในสองกลยุทธที่อิงกลไกการตลาด อีกอย่างหนึ่งคือการซื้อและขาย แต่ทั้งสองกลยุทธล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือลดปริมาณการปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ และชะลอภาวะโลกร้อน
ก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกมาจากการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล จะถูกเก็บกักไว้ในชั้นบรรยากาศของโลกและเป็นที่ดักและดูดซับความร้อนไม่ให้สะท้อนกลับออกไปนอกชั้นบรรยากาศของโลก ทำให้เกิดสภาวะเรื่อนกระจกและนำไปสู่สภาวะโลกร้อน นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่านี่เป็นสาเหตุการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลกอย่างมีนัยสำคัญ
สภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วขึ้นทำเกิดให้น้ำท่วมชายฝั่งทั่วโลก น้ำทะเลลุกล้ำเข้ามายังพื้นดิน และคุกคามที่อยู่อาศัยของหมีขั้วโลกและสัตว์สายพันธุ์อื่นๆอีก นอกจากนี้ภาวะโลกร้อนทำให้เกิดภัยแล้งอย่างรุนแรง น้ำท่วม ไฟป่า การขาดแคลนน้ำจืด
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเราสามารถชะลออัตราการเกิดภาวะโลกร้อนได้โดยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยสู่บรรยากาศ
หลายประเทศนำระบบภาษีคาร์บอนไปใช้
หลายประเทศได้จัดทำภาษีคาร์บอน ในเอเชียญี่ปุ่นมีภาษีคาร์บอนตั้งแต่ปี 2555 เกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2558 ออสเตรเลียได้เปิดตัวภาษีคาร์บอนในปี 2555 แต่ก็ถูกยกเลิกโดยรัฐบาลอนุรักษ์นิยมในปี 2557 หลายประเทศในยุโรปได้จัดตั้งระบบภาษีคาร์บอนขึ้นมา ที่มีลักษณะแตกต่างกัน ในแคนาดาไม่มีภาษีระดับประเทศ แต่จังหวัดของควิเบกบริติชโคลัมเบียและอัลเบอร์ตาเก็บภาษีคาร์บอนทั้งหมด
สำหรับประเทศไทย คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปรับโครงสร้างจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรรถจักรยานยนต์แบบใหม่ โดยปรับจากการจัดเก็บภาษีจากความจุกระบอกสูบเป็นการจัดเก็บภาษีจากปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แทน โดยจะมีผลเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นมา
ที่มา www.khundee.com