"องค์กรผู้นำด้านก๊าซเรือนกระจก

PM2.5 เพิ่มการเป็นอัลไซเมอร์ 300% ออทิสติก 150% อัมพาต 100%

แบ่งปันเรื่องราวนี้ผ่านช่องทาง

หากเราอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ๆเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างยามเช้า เราอาจจะบอกไม่ได้แล้วว่าทิวทัศน์พร่ามัวนั้นเป็นผลมาจากหมอกหรือฝุ่นกันแน่ ซึ่งฝุ่นที่ได้รับความสนใจกันในตอนนี้คงหนีไม่พ้น ฝุ่นPM 2.5

คำว่า PM 2.5 นั้นมีที่มาอย่างไร? และเกิดขึ้นได้อย่างไร?

PM นั้นย่อมาจาก Particulate Matter ซึ่งเป็นอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กแขวนลอยในอากาศ ส่วนตัวเลข 2.5 คือเส้นผ่านศูนย์กลางของอนุภาคซึ่งเท่ากับ 2.5 ไมครอน (เล็กกว่าความหนาเส้นผมราว 30 เท่า)

แหล่งกำเนิดฝุ่นเหล่านี้คือ ท่อไอเสียยานพาหนะ ปล่องโรงงาน การก่อสร้าง ควันบุหรี่ ไฟป่าหรือกระทั่งภูเขาไฟระเบิด

เนื่องจากฝุ่นเหล่านี้มีขนาดเล็กและแขวนลอยในอากาศได้นานจึงถูกลมพัดมาไปที่อื่นๆได้ด้วย

ฝุ่นสามารถจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเดินหายใจ ดังนั้นเราอาจได้รับฝุ่นนี้ในปริมาณมากหากอาศัยในเมืองใหญ่ที่อากาศเต็มไปด้วยมลภาวะ  ปัญหาจริงๆคือ ฝุ่นPM 2.5 มีขนาดเล็กมากจนขนจมูกดักจับไม่ได้ทำให้ฝุ่นเหล่านี้เล็ดลอดเข้าไปยังปอดและระบบหมุนเวียนโลหิตผ่านไปยังระบบอื่นๆของร่างกายได้ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอย่างหอบหืดหรือภูมิแพ้อาจอาการกำเริบเมื่อได้รับ ฝุ่นPM 2.5 มากพอ

ล่าสุด เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2019 มีงานวิจัยชี้ว่าฝุ่น PM 2.5 เกี่ยวข้องกับโรคสมองฝ่อ รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์และความจำเสื่อมด้วย! นักวิจัยศึกษาหญิงในช่วงอายุ 73 – 87 ปีจำนวน 998 คนโดยการสแกนสมองและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในบริเวณที่กลุ่มตัวอย่างอาศัยอยู่เพื่อใช้ประมาณการว่าแต่ละคนได้รับPM 2.5 มากน้อยแค่ไหน

ข้อมูลเหล่านี้ทำให้นักวิจัยพบความสัมพันธ์ระหว่างมลภาวะที่ได้รับความเปลี่ยนแปลงของสมองและความจำซึ่งสรุปได้ว่าการได้รับPM 2.5 เป็นเวลานานกระทบต่อสมองและความจำอีก รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงของอัลไซเมอร์ได้

การที่ฝุ่นPM 2.5 ส่งผลต่อสมองอาจเป็นเพราะมันสามารถไหลเวียนไปตามกระแสเลือดและเข้าสู่สมองไปกระตุ้นการเกิดอะไมลอยด์พลัค (Amyloid Plaques) ซึ่งเป็นสารที่เมื่อสะสมในสมองมากถึงจุดหนึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการของโรคอัลไซเมอร์ได้

ไม่เพียงแต่อัลไซเมอร์เท่านั้นยังมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ของการได้รับPM 2.5 กับโรคทางสมองและระบบประสาทอื่นๆด้วย

ดังนั้นหากเราอาศัยในเมืองที่มีมลภาวะสูงและเสี่ยงที่จะได้รับฝุ่นนี้ สิ่งที่ทำได้ไวที่สุด (แม้จะไม่ใช่การแก้ที่ต้นเหตุหรือยั่งยืนนัก) คือการป้องกันตัวเองใช้หน้ากากกันฝุ่นที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้รวมทั้งการใช้เครื่องฟอกอากาศและอย่าลืมเตือนให้ทุกคนสวมหน้ากากก่อนออกจากบ้านในวันที่ค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐาน

ส่วนการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุน่าจะเป็นลดงานก่อสร้างในช่วงที่ฝุ่นมีค่าสูง เข้มงวดกับการปล่อยมลภาวะของโรงงานอุตสาหกรรม

รวมทั้งการพยายามสนับสนุนการใช้ระบบขนส่งสาธารณะในเมืองใหญ่ให้มากที่สุด ด้วยการเพิ่มคุณภาพของรถเมล์ ให้น่าใช้ ปลอดภัยและไม่ปล่อยควันดำ นั่นเอง

บทความโดย  อาจวรงค์  จันทมาศ

อ้างอิง

https://medicalxpress.com/news/2019-11-exposure-pm-pollution-linked-brain.html

https://academic.oup.com/brain/advance-article-abstract/doi/10.1093/brain/awz348/5628036?redirectedFrom=fulltext

https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0048969718345741

https://toxtown.nlm.nih.gov/chemicals-and-contaminants/particulate-matter

https://link.springer.com/content/pdf/10.1684/ejd.2015.2726.pdf

 

Loading

สาระน่ารู้ที่น่าสในใจ

เข้าสู่ระบบ

แจ้งเบาะแส "ทุจริต หรือ มิชอบ"

การกรอกข้อมูลสำหรับการร้องเรียนการทุจริตและพฤติกรรมมิชอบนั้นจะถูกเก็บเป็นความลับ ข้อมูลส่วนตัวของท่าน  ชื่อ-นามสกุล อีเมล์ และเบอร์โทรศัพท์ เป็นช่องทางในการติดต่อกลับและรายงานการดำเนินการให้ท่านรับทราบ
* หมายเหตุ : การร้องเรียนการทุจริตและพฤติกรรมมิชอบเมื่อกรอกข้อมูลแล้ว จะรายงานส่งไปยังผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงาน

แจ้งข้อร้องเรียน/ข้อเสนอแนะ

ข้อแนะนำในการใช้งาน


ข้อตกลงการใช้ระบบ
1.ระบบ VOC หรือ Voice of Customer นี้เป็นช่องทางหนึ่งที่จัดทำขึ้นเพื่อรับฟังเสียงจากนักศึกษา บุคลากร นักศึกษาเก่า และบุคคลทั่วไป โดยจะรวบรวมข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อร้องเรียนต่าง ๆ จากผู้รับบริการของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาบริการของสำนักให้มีคุณภาพมาตรฐานที่ดี และตรงตามความต้องการของผู้รับบริการให้มากยิ่งขึ้น
2. การแจ้งข้อร้องเรียนหรือพบปัญหาการใช้บริการ มีความจำเป็นที่จะต้องทราบข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญเบื้องต้น เช่น ชื่อนามสกุล อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ข้อเท็จจริงที่พบปัญหา วันเวลาที่เกิดเหตุการณ์ ข้อมูลของระบบที่ใช้ และรูปภาพที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) เพื่อประโยชน์ในการติดต่อกลับ และเพื่อให้การตรวจสอบหรือแก้ไขปัญหาแก่ผู้รับบริการทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
3. ข้อความที่ใช้ควรเป็นถ้อยคำที่สุภาพ เป็นไปตามทำนองคลองธรรม และถูกต้องตามกฎหมาย
4. การนำความอันเป็นเท็จมาร้องเรียน หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย หรือมีเจตนากลั่นแกล้งผู้อื่น ผู้ร้องอาจต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางวินัยและทางอาญา
5. เป็นเรื่องที่ผู้ได้รับความเดือดร้อน หรือเสียหาย หรือขอให้แก้ไข อันเนื่องมาจากผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยหรือจากส่วนงานในสังกัดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
6. กรณีที่ผู้แจ้งไม่ได้ให้ข้อมูลอย่างเพียงพอหรือไม่เปิดเผยตัวตน และสำนักฯ ไม่สามารถติดต่อประสานขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ สำนักฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่พิจารณาเรื่องดังกล่าว แต่หากเป็นข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ สำนักฯ มีความยินดีจะรับเรื่องดังกล่าวไปพัฒนาการให้บริการของสำนักให้ดีที่สุดต่อไป
7. เรื่องที่ไม่ปรากฏตัวตนผู้ร้องหรือตรวจสอบตัวตนของผู้ร้องไม่ได้ หรือมีลักษณะเป็นบัตรสนเท่ห์ อาจรับไว้พิจารณาก็ได้ ถ้าหากระบุหลักฐานกรณีแวดล้อมปรากฏชัดแจ้ง ตลอดจนชี้พยานบุคคลแน่นอน สามารถสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไปได้และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
8. หลังจากที่ระบบได้รับเรื่องจากผู้แจ้งแล้ว หากผู้แจ้งได้ให้อีเมล (email) ไว้ ระบบจะมีการติดตามความคืบหน้าโดยอัตโนมัติ และรายงานผลการพิจารณาหรือข้อสรุปการดำเนินการที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้แจ้งทราบโดยเร็วผ่านทางอีเมล์ของผู้แจ้ง

* ข้าพเจ้าได้อ่านข้อตกลงเป็นอย่างดีแล้ว และยอมรับตามข้อตกลงนี้
* โปรดระบุ Email และเบอร์โทรศัพท์ของท่าน เพื่อใช้ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการให้ทราบผ่านทาง Email

การกรอกข้อมูลสำหรับการร้องเรียนการทุจริตและพฤติกรรมมิชอบนั้นจะถูกเก็บเป็นความลับ ข้อมูลส่วนตัวของท่าน  ชื่อ-นามสกุล อีเมล์ และเบอร์โทรศัพท์ เป็นช่องทางในการติดต่อกลับและรายงานการดำเนินการให้ท่านรับทราบ
* หมายเหตุ : การร้องเรียนการทุจริตและพฤติกรรมมิชอบเมื่อกรอกข้อมูลแล้ว จะรายงานส่งไปยังผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงาน