การมีแอร์ใช้มานานหลายปีหลายคนยังไม่ทราบถึงวิธีปรับแอร์ตามโหมดที่มีเลยก็ว่าได้ ทำให้การใช้งานบางครั้งไม่ถูกใจ หากทราบว่าโหมดที่มีการตั้งอยู่นั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง ย่อมทำให้การใช้แอร์ในแต่ละโอกาสมีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น โหมดการทำงานของแอร์ มีอะไรบ้าง?
โหมดการใช้งานต่างๆของเครื่องปรับอากาศและวิธีการใช้งาน
เนื่องจากแอร์แต่ละรุ่นมักจะประกอบไปด้วย 4 โหมด คือ Auto Mode, Cool Mode, Dry Mode, Fan Mode โดยมีคุณสมบัติการใช้ที่เหมาะสมดังนี้
Auto Mode
เป็นโหมดที่นิยมใช้กันมากที่สุด เป็นการปรับความเย็นโดยอัตโนมัติที่เซนเซอร์ที่ตัวแอร์กำหนดไว้ เมื่อเปิดแอร์แล้ว พัดลมแอร์จะทำหน้าที่หมุนเร็วๆ เพื่อจะให้ห้องนั้นเย็นในขนาดกำลังเหมาะ เมื่อห้องเย็นแล้วก็จะปรับไปที่โหมด Cool หรือ Dry โดยอัตโนมัติ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวก สบาย ไม่ต้องการปรับเองหรือปรับซับซ้อน เหมาะกับห้องที่มีคนอยู่หลายคนและมีการเดินเข้าเดินออก ไม่เหมาะกับห้องที่อยู่เพียงคนเดียว
Cool Mode
เหมาะสำหรับวันที่อากาศร้อนอบอ้าวหรืออากาศภายนอกเย็น เป็นการกำหนดการปรับตามอุณหภูมิตามใจต้องการ ซึ่งสามารถใช้โหมดนี้ได้เมื่อถึงอุณหภูมิที่กำหนดไว้ตามรีโมทแอร์ เช่น 23 องศา ความเย็นก็จะไปอยู่ที่ 23 องศาและแอร์ก็จะตัดทันที เป็นความสะดวกสบาย ที่ผู้ใช้ต้องการให้ห้องนั้นเย็นมากหรือน้อยได้ตามใจต้องการ
Dry Mode
เป็นโหมดที่ทำงานเหมือนกับ Cool Mode คือสามารถปรับให้อุณหภูมิห้องร้อนหรือเย็นเท่าที่ต้องการ แต่จะเพิ่มการควบคุมความชื้นมากขึ้น ดังนั้นโหมดนี้จะเหมาะมากสำหรับห้องที่มีสิ่งของที่ไม่ต้องการความชื้น ก็จะใช้โหมดนี้ได้ แต่ข้อแตกต่างจาก Cool Mode คือความเย็นจะไม่ฉ่ำเท่าเพราะโหมดนี้ช่วยควบคุมความชื้นออกไปจากห้องแล้ว จึงรู้สึกเย็นแต่แห้งไม่ชุ่มชื้น
Fan Mode
เหมาะสำหรับห้องที่มีกลิ่นอับ ต้องการให้มีอากาศหมุนเวียน จากภายนอกให้เข้ามา ด้วยการปรับแอร์ไปที่โหมด Fan Mode ซึ่งเป็นการทำงานเฉพาะพัดลมเพียงอย่างเดียว ลมที่พัดออกมานั้นจะมีแค่ลมไม่มีความเย็นซึ่งจะเป็นอุณหภูมิแบบปกติของห้อง เป็นการใช้พัดลมของแอร์ให้ช่วยพัดให้อากาศถ่ายเทเท่านั้น ไม่เหมาะที่จะอยู่อาศัยขณะทำงานอยู่โหมดนี้ ซึ่งบางท่านหากไม่ทราบจริงๆ ก็จะคิดว่าแอร์ไม่ทำความเย็นหรือเสียไปแล้ว
เมื่อทราบแบบนี้แล้ว ย่อมไม่ยากต่อการใช้งานอีกต่อไป การเลือกปรับโหมดได้เหมาะกับโอกาส อุณหภูมิ และความต้องการยิ่งจะเป็นการใช้งานแอร์ที่คุ้มค่า ที่สำคัญยังเป็นการช่วยประหยัดไฟได้ดีอีกด้วย นับเป็นเรื่องที่ดีที่ไม่ควรมองข้าม