สถานการณ์รถพลังงานไฟฟ้าในตลาดโลกกับการเตรียมรับมือของไทย
สถานการณ์รถพลังงานไฟฟ้าในตลาดโลกกับการเตรียมรับมือของไทย
ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ารถพลังงานไฟฟ้าเข้ามามีบทบาทในวงการรถยนต์ และเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งในภาคผลิตที่มีการผลักดันให้เป็นกระแสเทียบเท่ากับรถยนต์ในปัจจุบัน ในงานเทศกาลแสดงรถแต่ละที่ เราจะพบว่ามีการเปิดตัวรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ออกมาอยู่เสมอ และทุกครั้งก็ได้รับการตอบรับที่น่าพึงพอใจ เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงการก้าวขีดจำกัดที่เกิดการพัฒนาไปสู่ความเป็นมาตรฐานใหม่ เป็นนวัตกรรมที่จะช่วยให้การใช้ชีวิตยุคใหม่เป็นไปอย่างเท่าทันตามกระแสโลกที่มีการเปลี่ยนปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา
รถพลังงานไฟฟ้ามีแนวโน้มครองส่วนแบ่งทางการตลาดเกินครึ่งในอนาคต
ค่ายรถยนต์ทั่วโลกก็หันมามุ่งพัฒนารถพลังงานไฟฟ้ากันอย่างเอาจริงเอาจัง และสร้างความร่วมมือต่อกันมากขึ้น ดังที่เราเห็นข่าวบางบริษัทรถจับมือกับภาคอุตสาหกรรมไอทีอยู่บ่อย ๆ ผู้คนเองก็ให้ความสนใจและมองถึงความเป็นไปได้ในการซื้อรถพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในชีวิตประจำวันด้วยปัจจัยที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือมองว่าเป็นการลงทุนที่ช่วยเซฟค่าใช้จายได้ในระยะยาวเมื่อเทียบอัตราค่าใช้จ่ายต่อปี จะพบว่าการใช้รถพลังงานไฟฟ้าจะประหยัดเงินได้มากประมาณ 45,000 บาทต่อปีเป็นผลเนื่องมาจากการใช้พลังงานทดแทนที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการใช้พลังงานเชื้อเพลิง
รถพลังงานไฟฟ้าในตลาดโลก
การเติบโตของวงการรถพลังงานไฟฟ้าแพร่กระจายไปทั่วทุกพื้นที่บนโลก แต่ละประเทศมีแผนรองรับและพัฒนานวัตกรรมนี้เพื่อก้าวนำความเป็นเทคโนโลยีในการขับเคลื่อน สร้างการแข่งขันกันสอดรับไปพร้อม ๆ กับการร่วมมือของทั้งภาครัฐและเอกชันด้วยกันเอง มาดูกันว่าสถานการณ์รถไฟฟ้าในระดับโลกของแต่ละประเทศมีมาจรการและมุมมองอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
คาด “รถยนต์ไฟฟ้า” ราคาจะเท่าน้ำมันในปี 2026 ปตท.เตรียมขยายธุรกิจรองรับ
รถพลังงานไฟฟ้าในตลาดจีน
ประเทศจีนมียอดขายรถพลังงานไฟฟ้ามากกว่ายอดขายจากประเทศอื่นทั่วโลกรวมกัน
พิจารณาและอ้างอิงจากข้อมูลตามสภาพความเป็นจริง ประเทศจีนเป็นกำลังสำคัญที่ตลาดรถพลังงานไฟฟ้าจะฝากอนาคตเอาไว้ได้อย่างมีความหวังที่สุด เพราะยอดขายจากจีนปี 2561 ครอบครองสัดส่วนยอดขายของทั้งโลกไว้ถึง 56% เรียกได้ว่ามากกว่าทั่วโลกรวมกัน โดยยอดขายทั่วโลกอยู่ที่ 2.1 ล้านคัน ที่จีนขายได้ 1.2 ล้านคัน เพิ่มขึ้นสูงจากปี 2017 เป็น 5 แสนคัน คิดอัตราการเพิ่มขึ้นของตลาดรถพลังงานไฟฟ้าที่จีนเป็น 64%
ทางภาครัฐของจีนให้การสนับสนุนรถพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มที่แทบทุกด้าน
เป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจกับข้อมูลดังกล่าวเพราะรัฐบาลจีนทุ่มเทและให้การสนับสนุนในเรื่องของรถพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการให้เงินสนับสนุน การรณรงค์ให้ประชาชนหันมาให้ความสำคัญเรื่องปัญหามลพิษ พร้อมออกนโยบายลดภาษีให้รถยนต์ประเภทนี้ด้วย ควบคู่ไปกับการอัดฉีดเงินให้กับบริษัทที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงเร่งสร้างและกระจายโครงสร้างพื้นฐานอย่างจุดชาร์จไฟฟ้าให้มีจำนวนมากที่สุด แม้สหรัฐจะติดกลุ่มประเทศที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสัดส่วนที่สูงเช่นกันก็ตาม แต่จีนกลับแซงหน้ากลายเป็นผู้นำและสร้างความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีไปแบบเชือดนิ่ม ๆ
จีนเสี่ยงภาวะฟองสบู่แตกเมื่อเกิดอุปทานส่วนเกิน
แต่ปัญหาที่ตามมาอาจทำให้จีนต้องปรับและแก้ไขแผนใหม่ให้สมดุลกับตลาดโลก เมื่อกลายเป็นว่าต้องเผชิญกับความเสี่ยงภาวะฟองสบู่แตก เกิดอุปทานส่วนเกินขึ้้นเมื่อบริษัทผลิตรถพลังงานไฟฟ้าในจีนพุ่งสูงกว่า 500 ราย แต่ดีมานด์ความต้องการซื้อยังไม่สูงพอที่ควรจะมีบริษัทมากมายขนาดนั้น อีกทั้งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กระทรวงการคลังของจีนประกาศเตรียมจะตัดงบประมาณสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2020 โดยจะเริ่มลงไปเกือบครึ่งหนึ่ง และนั่นอาจมีความเป้นไปได้ที่บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเกือบ 500 แห่งจะเหลือเพียงไม่กี่สิบแห่งเท่านั้น เพราะไม่สามารถอยู่ได้เนื่องจากธุรกิจไม่ได้ให้ผลกำไรตามที่คาด เหากจะกระตุ้นการซื้อดูเป็นอะไรที่จีนพยายามเต็มที่ไปแล้ว นับจากนี้จะเป็นช่วงเวลาคัดเลือกหาผู้อยู่รอดที่จะประคองตลาดและพารถพลังงานไฟฟ้านี้เข้าสู่ช่วงทรงตัวได้อีกครั้งให้เข้าสู่ช่วงที่ดีมานด์และซัพพลายสอดคล้องกันในที่สุด
รถพลังงานไฟฟ้าในตลาดเยอรมนี
มีมาตรการมากมายที่รองรับการใช้งานรถพลังงานไฟฟ้าที่เยอรมนี
จะดีแค่ไหนถ้าการซื้อรถสักคันได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเหมือนอย่างที่เยอรมนี ที่ประชาชนผู้ซื้อรถพลังงานไฟฟ้าใหม่จะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล อีกทั้งมีมาตรการรองรับมากมายเพื่อกระตุ้นให้คนหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการยกเว้นภาษี หรือการใช้เงิน300 ล้านยูโร เพื่อสร้างสถานีชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า 15,000 แห่ง ในช่วงปี 2017-2020 ตามเส้นทางหลวงและในอีกหลายแห่ง ทั้งมีการลงมติเตรียมแบนรถยนต์ ที่ใช้เครื่องยนต์เผาไหม้ภายใน หรือรถยนต์ที่ใช้น้ำมันในปัจจุบันภายในปี 2030 เพื่อเตรียมเปลี่ยนผ่านสู่ยุคสมัยรถยนต์ที่ไม่ปล่อยควันเสียออกสู่ภายนอก แม้ตอนนี้ยังไม่มีผลบังคับทางกฎหมายใด ๆ แต่มีอิทธิพลต่อการออกกฎหมายในระดับ EU ต่อจากนี้ มติฉบับดังกล่าวยังกระตุ้นให้ EU ปรับปรุงระบบภาษีเพื่อจูงใจให้คนใช้รถยนต์ที่ไม่ปล่อยควันเสีย และขึ้นภาษีรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลด้วย โดยที่เยอรมนีตั้งเป้าไว้ว่าจะมีผู้ใช้รถพลังงานไฟฟ้ามากถึง 1 ล้านคันภายในปี 2020
รถพลังงานไฟฟ้าในตลาดเนเธอร์แลนด์
รัฐบาลเนเธอร์แลนด์เตรียมออกกฎหมายที่กำหนดให้รถทุกรุ่นที่จำหน่ายในประเทศจะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าภายในปี 2025 โดยเปิดเผยว่าต้องการที่จะลดปริมาณมลพิษคาร์บอนไดออกไซด์ และเปลี่ยนวิธีการใช้พลังงานฟอสซิลเพื่อเป็นการอนุรักษณ์และรักษาโลก รวมไปทั้งมีผลักดันออกมาในรูปแบบของการงดภาษีสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลเป็นเวลา4ปีเต็ม
การส่งเสริมรถพลังงานไฟฟ้าในเนเธอร์แลนด์มีการพัฒนาอย่างค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป
แต่ยังยอมรับว่าแนวคิดที่จะแบนรถที่ใช้เครื่องยนต์ในปัจจุบันนั้นยังไม่สามารถทำได้อย่างเด็ดขาดแม้จะถึงปีที่กำหนดแล้วก็ตาม จนกว่ารถพลังงานไฟฟ้าจะมีราคาที่อยู่ในระดับที่เหมาะสม สามารถเข้าถึงได้ต่อผู้ใช้งานทุกระดับ โดยการจะสนองต่อกฎหมายดังกล่าวนั้นได้ต้องใช้เวลา ให้ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปและให้ทุกอย่างลงตัวไปเองในที่สุด
รถพลังงานไฟฟ้าในตลาดญี่ปุ่น
แม้จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี แต่นั่นไม่ใช่สิ่งการันตีความสำเร็จ
ถึงแม้จะเป็นผู้นำและเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ไปทั่วโลก แต่ในเรื่องของรถพลังงานไฟฟ้า ญี่ปุ่นกลับมีสัดส่วนการใช้งานเพียงร้อยละ 1 ของยอดขายรถทุกประเภท การทำตลาดที่ได้เปรียบเรื่องเวลาที่มีการนำออกสู่ตลาดก่อนกลับไม่เป็นผล ถูก TELSA ผู้มีทีหลังแซงหน้าไปอย่างไม่เห็นฝุ่น ทั้งที่มีการคิดคันพัฒนามาร่วม 30 กว่าปีแล้ว นั่นเพราะการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างเดียวไม่ได้เป็นหนทางไปสู่ทางความสำเร็จ ญี่ปุ่นประสบปัญหาด้านกลยุทธ์ทางการตลาดและแผนธุรกิจ ทำให้ตลาดรถไฟฟ้าของญี่ปุ่นไม่สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำได้อย่างที่ตั้งใจ
สถานีชาร์จไฟที่ญี่ปุ่นมีรองรับผู้ใช้รถพลังงานไฟฟ้าได้อย่างเพียงพอในทุกเส้นทาง
จากปัจจัยสำคัญที่ทาง รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตกลงในสนธิสัญญาปารีสเมื่อปี ค.ศ. 2015 ว่า จะลดการปล่อยก๊าสเรือนกระจกอีกร้อยละ 26 ภายในปี ค.ศ. 2030 ทำให้การใช้รถยนต์ไฟฟ้าจึงกลายเป็นมาตรการที่รองรับและสนับสนุนข้อตกลงนี้ได้อย่างดีที่สุด ปัญหาการใช้รถพลงงงานไฟฟ้าที่ไม่ได้ดีอย่างที่ควรเป็นจึงถูกแก้ด้วยการที่รัฐบาลต้องออกนโยบายสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อให้รถพลังงานไฟฟ้าต้องได้รับความนิยมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการมอบเงินสนับสนุนให้แก่ผู้ที่ซื้อรถไฟฟ้า การลดภาษีรถยนต์ เพิ่มสถานีชาร์จไฟซึ่งในปัจจุบันนับรวมแล้วมีจำนวนใกล้เคียงกับจำนวนของสถานีบริการน้ำมันเลยทีเดียว
แนวโน้มตลาดรถพลังงานไฟฟ้าในไทยกับการปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่
มาดูกันที่ไทยเราบ้าง ในขณะที่ทั่วโลกมีมาตรการรับมือลดใช้พลังงานเชื้อเพลิงที่เป็นมลภาวะ มีการประเมินโดย EIC เกี่ยวกับการวิเคราะห์ทิศทางการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าเอาไว้ว่า ยอดขายรถใหม่ในระยะ 5 ปีข้างหน้า ในไทยจะมีสัดส่วนยอดขายรถพลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 1% เท่านั้น นับว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลก เมื่อวิเคราะห์จะพบว่าส่วนหนึ่งมาจากการที่การตั้งราคาของรถมีราคาสูงกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ธรรมดาในรุ่นที่ใกล้เคียงกันมากพอสมควรและจากการสำรวจพบว่าผู้บริโภคที่สนใจจะซื้อรถในอนาคตข้างหน้ากว่า 60% มองว่ารถพลังงานไฟฟ้าไม่ได้มีประสิทธิภาพดีกว่ารถยนต์สันดาป และมีความกังวลถึงอุปกรณ์ที่รองรับการใช้รถประเภทนี้ว่าจะไม่เพียงพอในการใช้งานเท่าที่ควรจะเป็น
มาตรการการส่งเสริมรถพลังงานไฟฟ้าในไทยยังไม่น่าพึงพอใจเท่าที่ควร
การเติบโตรถไฟฟ้าในไทยจึงเป็นไปอย่างช้า ๆ ควบคู่ไปกับมาตรการของรัฐบาล ที่ดูเหมือนไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมเท่าที่ควรนัก ในขณะที่ต่างประเทศตามที่ได้ยกตัวอย่างไปข้างต้น มีการมอบเงินสนุบสนุนอย่างเต็มที่สำหรับผู้ซื้อและผู้ผลิตรถพลังงานไฟฟ้า แต่ของไทยมีเพียงปรับการลดอัตราภาษีลง โดยมีรายละเอียดตามราชกิจจานุเบกษา การลดอัตราภาษีสรรพสามิต ฉบับที่ 138 วันที่ 20 มิถุนายน 256 จากกระทรวงการคลังและมติตามที่เผยแพร่ดังนี้
- สนับสนุนให้ผู้ผลิตหันมาใช้ขุมพลังไฮบริด รวมไปถึง รถยนต์นั่งแบบไฮบริด ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซี.ซี. ลดอัตราภาษีสรรพสามิตลงเหลือ 5-10% จากเดิม 10-20%
- รถยนต์ไฟฟ้าล้วน (EV) ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตลงจากเดิมจาก 10% เหลือเพียง 2%
- ครม. ได้อนุมัติมาตรการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (BATTERY ELECTRIC VEHICLES : BEV) ในประเทศไทย ได้รับสิทธิประโยชน์ภาษีเงินได้และสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอื่น ๆ
- ด้าน BOI พร้อมส่งเสริมการลงทุน นำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป (CBU) โดยได้รับการลดหย่อน หรือยกเว้นอากรขาเข้าในรุ่นรถยนต์ที่จะผลิต เพื่อนำมาทดลองตลาดในปริมาณที่กำหนด ได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนหรือยกเว้นอากรขาเข้าชิ้นส่วนสำคัญ
- ฝั่งกรมการขนส่งทางบกได้ปลดล็อกการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า แต่เดิมรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนได้คือ 15KW ตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก 4KW และความเร็วสูงสุดไม่ต่ำกว่า 45 กม./ชม. สามารถจดทะเบียนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กได้
อาจจะเป็นเพราะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น การส่งเสริมของทางไทยจึงยังดูไม่ค่อยตอบโจทย์และสร้างผลลัพธ์ได้ดีอย่างที่ควรเป็น แต่กระแสโลกที่ประเทศอื่น ๆ กำลังให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างจริงจัง อาจจะช่วยขับและสร้างความกดดันให้ไทยกล้าตัดสินใจมากขึ้นนับต่อจากนี้ไม่ช้าก็เร็ว
MINE SPA1 2019 รถพลังงานไฟฟ้าฝีมือคนไทย
ยังมีอีกหลายประเทศที่หันมาให้ความสนใจในเรื่องของตลาดรถพลังงานไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น เกาหลีโปแลนด์ อังกฤษ หรืออีกหลาย ๆ ที่ ที่กำลังเล็งเห็นความจำเป็นของการใช้รถพลังงานไฟฟ้านี้ เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่พร้อมนวัตกรรมที่แสดงให้เห็นถึงการความสร้างสรรค์การพัฒนาที่ไม่มีขีดจำกัดของผู้คนที่สอดรับกับเทคโนโลยีที่จะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีต่อตัวเองและสังคมต่อไปขึ้นต่อไป
ที่มา www.chobrod.com