บ๊ายบายพลาสติก!!!

บ๊ายบายพลาสติก!!!

ถือเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกก็ว่าได้ (ถ้าทำได้จริง) เมื่อนักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศษ Christofer Costes สามารถสร้างเครื่องจักรเปลี่ยนพลาสติกให้เป็นเชื้อเพลิงเหลว (liquid fuel)

เครื่องจักรนี้มีชื่อว่า ‘Chrysalis’ ทำงานโดยการใส่พลาสติกในเครื่องปฏิกรณ์ที่มีความร้อนถึง 450 องศาเซลเซียสเพื่อทำการ ‘ไพโรไลซ์’ (การสลายตัวด้วยความร้อนของวัสดุที่อุณหภูมิสูงในบรรยากาศเฉื่อย)จากนั้นเครื่องจะทำการแปรรูปพลาสติกให้เป็นเชื้อเพลิงเหลว ซึ่ง 65% ของเชื้อเพลิงนั้นจะเป็นน้ำมันดีเซลที่สามารถใช้กับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหรือมอเตอร์ของเรือ, 18% จะเป็นน้ำมันเบนซินสำหรับการผลิตเชื้อเพลงในตะเกียง, 10% เป็นเเก๊สที่ใช้กับการเผาไหม้ และ 7% จะเป็นคาร์บอนสำหรับการผลิตสีเทียนและสารเติมแต่งสีต่างๆ

คุณ Costes ทำงานกับหน่วยงานทางด้านสิ่งเเวดล้อม Earth Wake ในการพัฒนาเครื่อง Chrysalis และเตรียมสร้างเครื่องจักรนี้ในเชิงพาณิชย์ โดยจะมีราคาประมาณเครื่องละ 50,000 ยูโรหรือ 2 ล้านบาทไทย พวกเขายังวางเเผนสร้างเครื่องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในช่วงปี 2019 สำหรับการผลิตเครื่องแปรรูปนำ้มันที่มีกำลังการผลิต 40 ลิตรต่อชม.

เราต้องการสร้างโมเดลเครื่องจักรที่ขายได้ เพื่อองค์กรของเราจะได้มีเงินทุนในการพัฒนาเครื่อง และเพิ่มการผลิตได้เรื่อยๆ” Francois Danel, ผู้บริหารของ Earth Wake กล่าว

ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากหากเครื่องนี้สามารถใช้งานและผลิตในต้นทุนต่ำได้ เพราะทุกวันนี้ มีการผลิตขยะพลาสติกกว่า 260 ล้านตัน ซึ่งถุงพลาสติก 1 ใบ ต้องใช้เวลาย่อยสลายถึง 450 ปี หากนำไปเผาก็จะทำให้เกิดสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ซึ่งทำให้เกิดมลภาวะทำให้โลกร้อนหรือ global warming ที่เป็นปัญหาใหญ่ของทั่วทั้งโลก

ในประเทศไทยเอง อย่างกรุงเทพมหานครมีรายงานการเก็บขยะมากถึง 85,00 ตัน/วัน ในจำนวนนี้คิดเป็นถุงพลาสติกถึงร้อยละ 21 หรือ 1,800 ตัน/วัน หรือรถเก๋งจำนวนประมาณ 1,800 คัน!!!

ล่าสุด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มีเป้าหมายลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ภายในปี 2565 ด้วยการใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ 100% ภายในปี 2570 ซึ่งจะช่วยลดปริมาณพลาสติกที่ต้องนำไปกำจัดได้ประมาณปีละ 780,000 ตัน ลดงบประมาณในการจัดการขยะมูลฝอยปีละ 3,900 ล้านบาท รวมทั้งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 1,200,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์

(ขอบคุณข้อมูลจากhttps://news.thaipbs.or.th/content/283923)

อ้างอิง: shorturl.at/bcjxGhttps://www.facebook.com/nont.cherdrush/posts/2310334355897140https://guru.sanook.com/4151/https://news.thaipbs.or.th/content/283923

เรียบเรียง : เดอะเทคโนโลยีโดยวิน

เรื่องที่น่าสนใจ

รู้ไว้ไม่เสียหาย เมื่อคุณเปลี่ยนมาใช้หลอด LED

รู้ไว้ไม่เสียหาย เมื่อคุณเปลี่ยนมาใช้หลอด LED

การลดการใช้พลังงาน ช่วยลดคาร์บอนได้อย่างไร

การลดการใช้พลังงาน ช่วยลดคาร์บอนได้อย่างไร

กิจกรรมลดคาร์บอน

กิจกรรมลดคาร์บอน

ใช้พัดลมอย่างไรให้ปลอดภัย และประหยัดพลังงาน

ใช้พัดลมอย่างไรให้ปลอดภัย และประหยัดพลังงาน

เรื่องล่าสุด

หมวดหมู่