การผลิตกระแสไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์จะเพิ่มมากขึ้น 50% ในช่วงห้าปีต่อจากนี้
จากการที่ภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือนเริ่มมีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์มากขึ้น
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ(IEA – The International Energy Agency)คาดการณ์ว่าจะมีพลังงานที่ผลิตได้จากพลังงานทดแทนเพิ่มอีก 1200 กิกะวัตต์ ภายในปี 2024 ซึ่งเทียบเท่าได้กับกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดของสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามสำนักงานกล่าวว่าการผลิตที่เพิ่มขึ้นก็ยังคงไม่เพียงพอกับต่อความต้องการพลังงานที่ยั่งยืน
รายงานคาดการณ์ว่าการลดต้นทุนและความพยายามร่วมมือกันของรัฐบาลจะช่วยผลักดันให้ระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มจำนวนมากขึ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 60% ของการผลิตพลังงานทดแทนเพิ่มเติม
ผู้อำนวยการผลิตหารของ IEA กล่าวว่า พลังงานทดแทนกลายเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าอันดับที่ 2 ของโลกแล้ว แต่เรายังคงต้องหันมาใช้งานให้มากขึ้นกว่านี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในเรื่องการลดภาวะโลกร้อน ดูแลคุณภาพอากาศ และการเข้าถึงพลังงานในระยะยาว และการที่ต้นทุนแผงโซลาร์เซลล์ลดลง ก็ทำให้คนหันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์กันมากขึ้นด้วย จากการศึกษาวิจัยของ IEA พบว่าระดับครัวเรือนเล็กๆมีการใช้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์มากกว่าตึกใหญ่ๆเสียอีก และในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้นอีกครึ่งหนึ่ง และค่าใช้จ่ายคาดว่าจะลดลงได้ 15-35% ภายในปี 2024 และต้องมีการกำหนดนโยบายเปลี่ยนแปลงอัตราค่าไฟฟ้าเพื่อดึงดูดให้ผู้ลงทุนสนใจในระบบพลังงานแสงอาทิตย์ให้มากขึ้น และต้องมีการจัดการที่ดีในของผู้ผลิตและผู้บริโภคอีกด้วย
แปลและเรียบเรียง : อธิชา เลิศวิราม
อ้างอิง https://www.independent.co.uk/news/business/news/renewable-power-electricity-capacity-increase-climate-change-a9165136.html