EV Car ข้อดี และข้อเสียที่ต้องรู้!!

EV Car ข้อดี และข้อเสียที่ต้องรู้!!

รถไฟฟ้า หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อรถ EV ที่ดูเหมือนว่าจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี รวมถึงยังมีส่วนช่วยในเรื่องของฝุ่นพิษอีกด้วย วันนี้เราจะพามาดูข้อดีและข้อเสียของรถไฟฟ้ากันค่ะ

ทำความรู้จักกับรถยนต์ EV

รถยนต์ EV หรือ Electric Vehicle คือ ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ไฟฟ้าแทนการใช้เครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้แบบสันดาป โดยรถยนต์ EV จะใช้พลังจากไฟฟ้าแทนการใช้มันน้ำหรือพลังงานอื่นๆ โดยระบบรถไฟฟ้าจะเก็บพลังงานเอาไว้ในแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จได้ และแปลงพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้ในการขับเคลื่อนรถ อนึ่งรถยนต์ EV ไม่ต้องมีกลไกลอะไรที่มากเหมือนขับเคลื่อนอย่างเช่นรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ซึ่งต้องใช้การจุดระเบิดเผาไหม้ในการขับเคลื่อน ทำให้เครื่องยนต์เงียบ และไม่มีไอเสียจากการเผาผลาญพลังงาน

รถยนต์ไฟฟ้าสามารถแบ่งได้หลายประเภทตามชื่อเรียก และกลุ่มของการใช้พลังงานในการขับเคลื่อน ตั้งแต่การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว จนถึงการใช้ระบบไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวในการขับเคลื่อน และยังมีรถยนต์ชนิด Fuel Cell Vehicles (FCV) ซึ่งขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจน และคาดว่าจะเข้ามาถึงตลาดได้ภายในเร็ววัน ในปัจจุบันรถยนต์ EVสามารถแบ่งตามเทคโนโลยีออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

1. รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle : HEV) เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานผสมผสานระหว่าง เชื้อเพลิงทั่วไป และพลังงานไฟฟ้าจากการแบตเตอรี่ รถยนต์ประเภทนี้จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำกว่าแบบใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากเมื่อมีการเหยียบเบรกรถ บางส่วนของพลังงานจะถูกจัดเก็บไว้ในแบตเตอรี่ และพลังงานที่เก็บไว้สามารถใช้ในภายหลังเพื่อการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมกับการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้

2. รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle : PHEV) รถยนต์ประเภทนี้มีระบบ น้ำมันเชื้อเพลิง และระบบไฟฟ้าเช่นเดียวกับรถยนต์ไฮบริด แต่สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้จากภายนอก หรือ Plug-in ทำให้เมื่อเสียบชาร์จพลังงานแล้วรถก็สามารถวิ่งไปได้ในระยะทางที่มากกว่าระบบไฮบริดแบบเดิม และแบตเตอรี่ที่ใช้ ยังสามารถชาร์จไฟเพิ่มเพื่อกักเก็บประจุได้ตามต้องการ และเมื่อแบตเตอรี่หมดลงรถจะทำงานคล้ายกับระบบแบบไฮบริด (HEV )

3. รถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แหล่งพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวในการขับเคลื่อน (Plug-in Electric Vehicles : PEVs) รถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้จะคล้ายคลึงกับรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) เพียงแต่จะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักเพียงอย่างเดียว เมื่อแบตเตอรี่หมดลงจะต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จประจุใหม่ สามารถแยกตามการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้ ได้ดังนี้

3.1 รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้วิ่งในระยะสั้น หรือในละแวกใกล้เคียง มีช่วงการขับขี่ต่ำและทำงานที่ความเร็วต่ำ ตัวอย่างเช่น GEM Electric Motorcar

3.2 รถยนต์ไฟฟ้าประเภท Battery Electric Vehicle (BEV) รถยนต์ประเภทนี้ขับเคลื่อนโดยใช้พลังงาน ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ 100% จึงต้องมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลต่อการชาร์จต่อหนึ่งครั้ง ทั้งนี้รถยนต์(Plug-in Electric Vehicles : PEVs) จะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในจึงไม่ทำให้เกิดสารก่อมลพิษในขณะขับเคลื่อนหรือที่เรียกว่า Zero Emission แต่มีข้อเสียอยู่ที่มีระยะทางการวิ่งจำกัด โดยระยะทางในการขับขี่จะขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่ และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ในการใช้งาน และเส้นทางวิ่ง

3.3 รถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle – FCEV) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อน และใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) โดยเป็นเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจากการเติมเชื้อเพลิงภายนอก โดยไม่มีการปล่อยมลพิษ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์โดยตรง จะมีเพียงการปลดปล่อยน้ำเท่านั้น ในปัจจุบันรถยนต์แบบ FCEV มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น และคาดว่าจะมีการเติบโต รวมถึงเข้าสู่ตลาดได้กันในเร็ววัน

ข้อดีของรถยนต์ EV

1. ค่าเชื้อเพลิงมีราคาไม่แพง แม้ว่ารถไฟฟ้า EV ที่อยู่ในตลาดปัจจุบันนี้จะมีราคาค่อนข้างสูงอยู่พอสมควร แต่เมื่อเทียบกับรถที่ใช้น้ำมัน จะเห็นว่าแนวโน้มราคาของรถไฟฟ้า EV เริ่มจะถูกลงเรื่อยๆ และเนื่องจากพลังงานของรถไฟฟ้า EV มาจากการชาร์จประจุไฟฟ้าเข้าไปที่ตัวแบตเตอรี่ ทำให้อัตราค่าใช้จ่ายเรื่องเชื้อเพลิงของรถไฟฟ้าก็ถูกกว่าเชื้อเพลิงน้ำมันเช่นกัน 2. เครื่องยนต์ทำงานเงียบ ไม่มีเสียงรบกวน เนื่องจากกลไกในการขับเคลื่อนไม่มาเท่ารถที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันในการขับเคลื่อน ซึ่งต้องใช้การจุดระเบิดเพื่อเผาไหม้จึงจะสามารถขับเคลื่อนได้ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้า EV มีเสียงที่เงียบกว่ารถที่ใช้น้ำมันเป็นพลังงานเชื้อเพลิง

3. รักษาสิ่งแวดล้อม สืบเนื่องมาจากข้อ 2 ด้วยการที่ไม่ต้องจุดระเบิดเพื่อขับเคลื่อน ทำให้รถยนต์แบบ EV ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ เพราะไม่มีไอเสียจากการเผาผลาญพลังงานอย่างเช่นเครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้แบบสันดาป

ข้อเสียรถยนต์ EV 

1. ตัวรถยนต์มีราคาสูง แม้ว่าจะมีอัตราค่าใช้จ่ายเรื่องเชื้อเพลิงที่ต่ำ แต่กระบวนการผลิตจนถึงการวางจำหน่ายจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่มีราคาสูง ทำให้ตัวรถมีราคาสูงตามไปด้วย ในขณะที่เมื่อมีราคาสูงทำให้จำนวนผู้ใช้งานน้อยลงไปด้วย ดังนั้นราคาของรถยนต์ EV จึงเป็นไปตามกลไกการตลาดที่เมื่อความต้องการจากผู้ใช้น้อย การผลิตจึงน้อยตาม ทำให้ราคาของรถยนต์ EV สูงไปด้วย

2. ระยะทางจำกัด และมีสถานีให้บริการชาร์จไฟน้อย เนื่องจากรถไฟฟ้า EV จำเป็นต้องพึ่งพาพลังงานจากแบตเตอรี และแบตเตอรี่ก็ มีข้อจำกัดในการใช้งานในเรื่องของประจุไฟฟ้า ซึ่งส่งผลต่อระยะทางในการขับขี่ที่ถูกจำกัดลงไปด้วย แน่นอนว่ารถไฟฟ้า EV เป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่ ทำให้ยังมีสถานบริการชาร์จไฟก็มีน้อยตามไปด้วย ทั้งในประเทศไทย และหลายๆ ประเทศ ก็ยังมีสถานบริการชาร์จไฟที่อาจจะไม่พียงพอต่อการใช้งาน

3. ระยะเวลาในการชาร์จไฟที่ถี่ และใช้เวลาในการชาร์จนาน ถึงแม้ว่าจะมีการพัฒนาเรื่องของแบตเตอรี่ และการชาร์จประจุอยู่ตลอด แต่ปัญหาของรถไฟฟ้า ก็ยังคงเป็นเรื่องของระยะเวลาในการชาร์จอยู่ดี เพราะการชาร์จไฟฟ้าไม่เหมือนการเติมน้ำมันที่เติมเพียง 2-3 นาที ก็ได้น้ำมันเต็มถัง ในขณะที่รถไฟฟ้าต้องใช้เวลาชาร์จนานกว่า 30 นาที หรือในบางรุ่นอาจใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยประจุจะเต็มเร็วหรือช้า ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณกระแสที่อัดประจุ ขนาด และประเภทของแบตเตอรี่อีกด้วย

4. ตัวเลือกยังน้อย อย่างที่บอกไปว่ารถไฟฟ้ายังเป็นยานพาหนะที่ใหม่อยู่ จึงมีค่ายรถยนต์เพียงไม่กี่ค่ายเท่านั้นที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV ออกสู่ตลาด รวมถึงมีพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้นต่อค่ายรถแต่ละค่าย แม้ว่าในปัจจุบันตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไปเราจะเห็นค่ายรถยนต์ที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV เพิ่มมากขึ้น จากที่แต่แต่เดิมมีเพียง Mitsubishi, Nissan, Chevrolet, Tesla, BMW, BYD และ Renault ที่ผลิตรถไฟฟ้า โดยจะเน้นเป็นรถยนต์ City Car และรถ SUV เป็นส่วนใหญ่ รวมถึงเน้นการขับขี่ในเมืองมากกว่าการขับที่ทางไกล ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าในปี 2562 จะมีรถยนต์ไฟฟ้า EV จากค่ายไหนเพิ่มเติมหรือไม่ แล้วทิศทางของตลาดรถไฟฟ้า EV จะเป็นอย่างไร

ที่มา www.chobrod.com

เรื่องที่น่าสนใจ

รู้ไว้ไม่เสียหาย เมื่อคุณเปลี่ยนมาใช้หลอด LED

รู้ไว้ไม่เสียหาย เมื่อคุณเปลี่ยนมาใช้หลอด LED

การลดการใช้พลังงาน ช่วยลดคาร์บอนได้อย่างไร

การลดการใช้พลังงาน ช่วยลดคาร์บอนได้อย่างไร

กิจกรรมลดคาร์บอน

กิจกรรมลดคาร์บอน

ใช้พัดลมอย่างไรให้ปลอดภัย และประหยัดพลังงาน

ใช้พัดลมอย่างไรให้ปลอดภัย และประหยัดพลังงาน

เรื่องล่าสุด

หมวดหมู่