เทคนิคการไล่แบบสุญญากาศ เพื่อการเพิ่มศักยภาพการผลิตก๊าซชีวภาพ ในฟาร์มไก่เนื้อ
มูลไก่เนื้อ ที่เจือปนด้วยแกลบรองพื้นซึ่งเหลือทิ้งจากกระบวนการเลี้ยงไก่เนื้อ นอกจากสามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ยปรับปรุงดินแล้วยังสามารถนำมาผลิตเป็นพลังงานทดแทน เพื่อใช้ภายในฟาร์มได้อีกด้วย โดย สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ได้ให้การส่งเสริมสนับสนุน การดำเนินงานโครงการลดแอมโมเนียในมูลไก่ด้วยเทคนิคการไล่แบบสุญญากาศ ภายใต้การดูแลโครงการของสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เพื่อการเพิ่มศักยภาพการผลิตก๊าซชีวภาพ
โดยใช้ถังหมักแบบแห้งและควบคุมปริมาณของแข็งทั้งหมดเท่ากับ 25 เปอร์เซ็นต์ พบว่าที่ระยะเวลากักเก็บ 60 วัน เป็นสภาวะที่เหมาะสมต่อการผลิตก๊าซชีวภาพ โดยระบบสามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้ 0.249 ลูกบาศก์เมตรมาตรฐานต่อกิโลกรัมของแข็งระเหยที่ป้อน หรือ 182 ลิตรมาตรฐานต่อกิโลกรัมมูลไก่เนื้อ และมีสัดส่วนของก๊าซมีเทนเท่ากับ 51.6 เปอร์เซ็นต์
หากนำมูลไก่เนื้อที่เจือปนด้วยแกลบรองพื้นมาปรับสภาพเบื้องต้นด้วยเทคนิคการไล่แบบสุญญากาศที่อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลา 2.5 ชั่วโมง ก่อนนำไปหมักย่อยในถังหมักแบบแห้ง ซึ่งสามารถลดขนาดของถังหมักให้เล็กลงได้ครึ่งหนึ่ง โดยที่ระบบสามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้ 0.201 ลูกบาศก์เมตรมาตรฐานต่อกิโลกรัมของแข็งระเหยที่ป้อน หรือ 146 ลิตรมาตรฐานต่อกิโลกรัมมูลไก่เนื้อ และมีสัดส่วนของก๊าซมีเทนเท่ากับ 51.4 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทางเคมีของมูลไก่เนื้อของแต่ละฟาร์ม ซึ่งอาจมีการเลี้ยงไก่เนื้อบนพื้นแกลบที่มีความหนาแตกต่างกัน และการออกแบบเทคโนโลยีการหมักแบบแห้งที่มีระยะเวลากักเก็บนานเกินไปอาจทำให้ค่าใช้จ่ายในการลงทุนระบบสูงเกินไป
ดังนั้น การลดแอมโมเนียในมูลไก่เนื้อด้วยเทคนิคการไล่แบบสุญญากาศ สามารถลดขนาดของถังหมักได้ และมีความเหมาะสมในการนำไปขยายผลใช้งานได้จริง ส่งผลให้ผู้ประกอบการฟาร์มไก่เนื้อ ได้แนวทางเลือกใหม่ในการนำก๊าซชีวภาพที่ผลิตได้ไปทดแทนพลังงานความร้อนในรูปก๊าซหุงต้มสำหรับกกลูกไก่ หรือเผาซากไก่ ตลอดจนสามารถนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ประโยชน์ภายในฟาร์มได้อีกด้วย