ดันไทยฮับรถยนต์ไฟฟ้าใน 5 ปี
“สมคิด” ลั่น 5 ปีไทยผงาดฮับรถยนต์ไฟฟ้า สั่งบีโอไอทำมาตรการเพิ่ม เน้นผลิตแบตเตอรี่เล็งให้สิทธิประโยชน์มากกว่า 8 ปี มอบกรมบัญชีกลางหารือราคากลางรถอีวีสำหรับหน่วยงานรัฐ “สุริยะ” ดันโครงการวินสะอาดให้จยย.รับจ้างเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติครั้งที่ 1/2563 โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ผู้บริหารกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมประชุม
นายสมคิดกล่าวว่านโยบายรถยนต์ไฟฟ้าเป็นนโยบายที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้ความสำคัญในลำดับต้นๆเพื่อเป็นการรักษาฐานการผลิตในอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยไว้และต้องยกระดับก้าวขึ้นไปเป็นศูนย์กลาง (ฮับ)ของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าจะส่งผลดีต่อเรื่องการผลิตอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและช่วยในเรื่องของสิ่งแวดล้อมในประเทศ สามารถช่วยลดฝุ่นPM2.5 ได้
ทั้งนี้การที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศได้จะต้องมีนโยบายที่สนับสนุนกันในหลายเรื่อง เรื่องแรกคือการสร้างความชัดเจนในการส่งเสริมการตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญโดยได้สั่งการให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไปดูในเรื่องของสิทธิประโยชน์ที่จูงใจให้เอกชนลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในไทยโดยอาจจะเพิ่มระยะเวลาในการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลจากปัจจุบันที่ให้สูงสุด 8 ปีเป็นให้เพิ่มขึ้น ส่วนเอกชนที่จะเข้ามาลงทุนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนสำคัญบีโอไออาจต้องทบทวนให้สิทธิประโยชน์ที่มากขึ้นจากเดิม รวมถึงมาตรการทางการคลังเช่นการยกเว้นอากรขาเข้าวัสดุและเครื่องจักรเพื่อส่งเสริมให้เกิดแรงจูงใจในการลงทุน
ส่วนในเรื่องของการเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในส่วนของสถานีชาร์จตนได้ให้นโยบายกับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการทำสถานีชาร์จไว้รองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อมีการลงทุนจริงก็จะมีมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐเช่นกัน
สำหรับปัญหาในเรื่องการสร้างดีมานต์ของรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศโดยในเรื่องนี้จะให้ภาครัฐเป็นผู้นำในเรื่องการใช้รถชนิดนี้โดยในเบื้องต้นต้องแก้ปัญหาการตั้งราคากลางของรถยนต์ที่หน่วยงานภาครัฐต้องซื้อหรือเช่าเนื่องจากราคารถยนต์ไฟฟ้ามีราคาสูงกว่ารถยนต์ปกติซึ่งได้สั่งการให้กระทรวงการคลังหารือกับกรมบัญชีกลางและนำเรื่องนี้ไปหารือในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
นายสุริยะกล่าวว่านโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรมในระยะแรกจะส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้าในกลุ่มอาชีพมอเตอร์ไซด์รับจ้างซึ่งมีจำนวนมากในกรุงเทพฯโดยจะดำเนินการภายใต้โครงการวินสะอาด ซึ่งจะสนับสนุนให้กลุ่มอาชีพนี้เปลี่ยนจากรถจักรยานยนต์ธรรมดาไปใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าโดยภาครัฐอาจสนับสนุนส่วนต่างของราคาในการเปลี่ยนรถโดยจะมีการดึงสถาบันการเงินเข้ามาช่วยเหลือให้สินเชื่อบางส่วนก็จะทำให้โครงการเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้แต่เดิมมีเป้าหมายในการสนับสนุน 53,000 คันภายในปี 2025